เพลงสรรเสริญสถาบัน

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

วีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน

วีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน 
  
 เหตุการณ์และบทบาทของชาวบ้านบางระจัน เกิดขึ้นเมื่อพม่ายกทัพทั้งทัพบกและทัพเรือมาตี 
กรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2306 ในระหว่างนั้น หัวเมืองทั้งใต้และเหนือของไทยเสียแก่พม่าไปหลายเมือง 
คนไทยที่ได้รับความเดือนร้อนต้องพาครอบครัวหลบหนีเข้าป่าไปเป็นจำนวนมาก ในขณะนั้น มีคนไทย
กลุ่มหนึ่งคิดต่อสู้กับพม่า บอกข่าวชักชวนชาวบ้าน นัดแนะทำกลลวงพม่าแล้วฆ่าพม่าไปจำนวนไม่น้อย
 จากนั้นกลุ่มคนไทยดังกล่าวได้พากันหลบหนีพม่าไปหาพระอาจารย์ธรรมโชติ ที่วัดเขาเดิมบาง 
นางบวช พระอาจารย์ผู้นี้มีวิชาอาคมเป็นที่ยกย่องนับถือของชาวบ้าน กลุ่มคนไทยจึงได้นิมนต์ให้ไปอยู่ 
ที่วัดโพธิ์เก้าต้น ในขณะนั้นมีราษฎรชาวเมืองวิเศษไชยชาญ ชาวเมืองสิงห์และเมืองสรรค์ พากัันหลบหนี 
พม่ามาชุมนุมกันในหมู่บ้านบางระจันกันมากมาย ด้วยหมู่บ้านแห่งนี้มีชัยภูมิที่ดีี่ยากที่พม่าจะยกทัพเข้ามาตี
ทั้งยังมีเสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ หัวหน้ากลุ่มคนไทยพากันหลบหนีมาชุมนุมกันที่นี้ โดยมีพรรคพวกที่
เป็นชาวบ้านติดตามมาอยู่ด้วย ชาวบ้านบางระจันได้ร่วมมือกันสร้างค่ายขึ้นล้อมรอบหมู่บ้าน จัดกำลังคน 
เป็นหมวดหมู่ทำหน้าที่รักษาค่าย เตรียมหาอาวุธไว้ต่อสู้กับศัตรู วางกองสอดแนมคอยสืบข่าวความ
เคลื่อนไหวของฝ่ายพม่า 

ย่าโม


ท้าวสุรนารี มีนามเดิมว่า "โม" (แปลว่า ใหญ่มาก)หรือ ท้าวมะโหโรง เป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2214 สมัยกรุงเทพ มีนิวาสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมาเป็นธิดาของนายกิ่มและนางบุญมา มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้นาผล ไม่มีสามี จึงอยู่ด้วยกันจนวายชนม์ มีน้องชายหนึ่งคน ชื่อ จุก(ภายหลังได้เป็น เจ้าเมืองพนมซร๊อก ต่อมามีการอพยพชาวเมืองพนมซร๊อก มาอยู่ ริมคูเมืองนครราชสีมาด้านใต้ จึงเอาชื่อเมือง พนมซร๊อก มาตั้งชื่อ บ้านพนมศรก ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น บ้านสก อยู่หลังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ จนทุกวันนี้)
เมื่อปี พ.ศ. 2339 โม เมื่ออายุได้ 35 ปี ได้แต่งงานสมรสกับนายทองคำขาว พนักงานกรมการเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมานายทองคำขาว ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น "พระภักดีสุริยเดช" ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา นางโม จึงได้เป็น คุณนายโม และต่อมา "พระภักดีสุริยเดช" ได้เลื่อนเป็น "พระยาสุริยเดช" ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณนายโมจึงได้เป็น คุณหญิงโม  ชาวเมืองนครราชสีมาเรียกท่านทั้งสองเป็นสามัญว่า "คุณหญิงโม" และ "พระยาปลัดทองคำ" ท่านเป็นหมันไม่มีทายาทสืบสายโลหิต ชาวเมืองนครราชสีมาทั้งหลายจึงพากันเรียกแทนตัวคุณหญิงโมว่า แม่ มีผู้มาฝากตัวเป็นลูก-หลานกับคุณหญิงโมอยู่มาก ซึ่งเป็นกำลัง และอำนาจส่งเสริมคุณหญิงโมให้ทำการ ใดๆ ได้สำเร็จเสมอ หนึ่งในลูกหลานคนสำคัญ ที่มีส่วนร่วมกับคุณหญิงโม เข้ากอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ คือ นางสาวบุญเหลือ
ท้าวสุรนารี เป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม เล่นหมากรุกเก่ง มีความชำนาญในการขี่ช้าง ขี่ม้า มีม้าตัวโปรดสีดำ และมักจะพาลูกหลาน ไปทำบุญที่วัดสระแก้วเป็นประจำเสมอท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2395 (เดือน 5 ปีชวด จัตวาศก จศ. 1214) สิริรวมอายุได้ 133 ปี

วีรกรรมของท้าวสุรนารี และบำเหน็จความชอบ

วีรกรรมของคุณหญิงโมนั้นเป็นที่คนไทยรุ่นหลังทราบดีว่า เมื่อพุทธศักราช 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ เป็นกบฏต่อกรุงเทพมหานคร ยกกองทัพเข้ามายึดเมืองนครราชสีมาได้ แล้วกวาดต้อนครอบครัวชาวนครราชสีมาไป คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ ได้รวบรวมครอบครัวชาย หญิงชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2369 ช่วยให้ฝ่ายไทยสามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด
เมื่อความทราบไปถึง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโม ขึ้นเป็นท้าวสุรนารี เมื่อ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 เมื่อคุณหญิงโมมีอายุได้ 57 ปี พร้อมกับพระราชทานพระราชทานเครื่องยศ มีต่อไปนี้[ต้องการอ้างอิง]
  • ถาดทองคำใส่เครื่องเชี่ยนหมาก 1 ใบ
  • จอกหมากทองคำ 1 คู่
  • ตลับทองคำ 3 ใบเถา
  • เต้าปูนทองคำ 1 ใบ
  • คนโท และขันน้ำทองคำอย่างละ 1 ใบ
ในปี พ.ศ. 2524 คือเมื่อวันที่ 5 เมษายน เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ท่ามกลางพสกนิกร ที่เข้าเฝ้าถวายความจงรักภักดีอย่างเนื่องแน่น ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานบรมราโชวาทมีความตอนหนึ่งว่า
Cquote1.svg
....ท้าวสุรนารี เป็นผู้ที่เสียสละเพื่อให้ประเทศชาติได้อยู่รอดปลอดภัย
ควรที่อนุชนรุ่นหลัง จะได้ระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน
บ้านเมืองทุกวันนี้เป็นสิ่งที่ต้องหวงแหน การหวงแหน คือ ต้องสามัคคี
รู้จักหน้าที่ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ชาวนครราชสีมาได้แสดงพลังต้องการ
ความเรียบร้อย ความสงบ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ชาติกลับปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง
แม้ว่าสถานการณ์รอบตัวเราและรอบโลก จะผันผวนและ ล่อแหลมมาก
แต่ถ้าทุกคนเข้มแข็ง สามัคคี กล้าหาญ และเอื้อเฟื้อต่อกันชาติก็จะมั่นคง....
Cquote2.svg
— พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่มา : wikipidia

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

เรือหลวงธนบุรี


เรือหลวงธนบุรี เป็นเรือรบประเภทเรือปืนหนักและเรือปืนยามฝั่งสังกัดกองทัพเรือไทย จัดอยู่ในประเภทเดียวกันและชั้นเดียวกันกับเรือหลวงศรีอยุธยา ต่อขึ้นที่อู่ต่อเรือกาวาซากิ เมืองโกเบประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2479 เป็นขุมกำลังสำคัญของกองทัพเรือไทยในช่วงกรณีพิพาทระหว่างไทย - อินโดจีนฝรั่งเศส โดยเรือหลวงธนบุรีได้เข้าทำการรบอย่างกล้าหาญในยุทธนาวีเกาะช้างเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 จนสามารถขับไล่ข้าศึกได้สำเร็จ แต่เรือได้รับความเสียหายอย่างหนักมาก เรือหลวงช้างจึงลากจูงให้มาเกยตื้นในเย็นวันเดียวกันที่แหลมงอบ จังหวัดตราด
ภายหลังเมื่อมีการกู้เรือหลวงธนบุรีแล้ว กองทัพเรือได้ลากจูงเรือมาทำการซ่อมใหญ่ในวันที่26 กันยายน พ.ศ. 2484 แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเสียหายหนักเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ จึงปลดระวางประจำการจากการเป็นเรือรบ และใช้เป็นกองบังคับการลอยน้ำของกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ จนปลดระวางประจำการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2502 ทางราชการจึงได้นำส่วนป้อมปืนเรือและหอบังคับการของเรือหลวงธนบุรีมาจัดตั้งเป็นอนุสรณ์สถานเรือหลวงธนบุรี เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้าง ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ภายในโรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ
ชื่อของเรือหลวงธนบุรีได้มาจากนาม "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร" อันเป็นนามของราชธานีไทยในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (พ.ศ. 2310 - 2325)

credit : th.wikipidia.org/wiki/เรือหลวงธนบุรี

ภาพเล็กๆน้อยๆ

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ทบ.ยกย่อง จ่าสิบเอก วสันต์ ทันนิธิ ที่เสียชีวิตระหว่างปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือน้ำท่วม จากเหตุ

ทบ.ยกย่อง จ่าสิบเอก วสันต์ ทันนิธิ ที่เสียชีวิตระหว่างปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือน้ำท่วม จากเหตุ

เรือขนกระสอบทรายล่มที่จ.นครสวรรค์ เป็นตัวอย่างทหารที่ทุ่มเททำงานเพื่อประชาชน
ตามที่ได้เกิดอุทกภัยขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศและหน่วยทหารของกองทัพบกในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย ได้เข้าช่วยเหลือ
ประชาชนอย่างทันทีและต่อเนื่องรวมถึงการสนับสนุนส่วนราชการต่างๆในการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนที่เดือดร้อนนั้น
สำหรับอุทกภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ๘ อำเภอ ได้แก่ อ.ชุมแสง ,อ.โกรกพระ ,
อ.เมืองนครสวรรค์ ,อ.พยุหะคีรี ,อ.เก้าเลี้ยว ,อ.ท่าตะโก ,อ.หนองบัว และอ.ตาคลี ซึ่ง กองทัพบก โดย มณฑลทหารบกที่ ๓๑
ได้ส่งกำลังทหารพร้อมยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนโดยทันทีและต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม
จนถึงปัจจุบัน ด้วยการ ช่วยขนย้ายคน -สิ่งของไปยังที่ปลอดภัย แจกจ่ายถุงยังชีพ ช่วยเกษตรกรเคลื่อนย้ายพันธุ์ปลาจากบ่อ
เลี้ยงไปไว้ตามกระชังปลา โดยเฉพาะการช่วยบรรจุกระสอบทรายเพื่อนำไปทำพนังกั้นน้ำในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ เพื่อป้องกันน้ำ
ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๔ ได้เกิดอุบัติเหตุเรือของมณฑลทหารบกที่ ๓๑ พลิกคว่ำกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะกำลัง
ขนย้ายกระสอบทราย เพื่อนำ ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ บ.เกาะยวน หมู่ที่ ๕ ต.ปากน้ำ โพ อ.เมือง
จ.ครสวรรค์ เป็นเหตุให้ จ่าสิบเอก วสันต์ ทันนิธิ สังกัด กองพันทหารช่างที่ ๔ ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ลำเลียงกระสอบทรายเพื่อ
ไปทำพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว จมน้ำสูญหาย ต่อมาพบว่าเสียชีวิตห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ ๒๐๐ เมตร
โดยขณะนี้ หน่วยต้นสังกัดได้เคลื่อนย้ายศพเพื่อนำ ไปบำ เพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมที่ วัดนครสวรรค์ อ.เมือง
จ.นครสวรรค์ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๒ กันยายน ๒๕๕๔ และกำหนดฌาปนกิจศพในวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๑๖๐๐ น
การเสียชีวิตของ จ่าสิบเอก วสันต์ ทันนิธิ ในครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่ายิ่งของกองทัพบก ผู้ซึ่งมีความกล้าหาญ
เสียสละ มุ่งมั่นตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือร้อนของประชาชนจากอุทกภัย เป็น
แบบอย่างที่ดีงามของทหารที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำ ลังความสามารถเพื่อความผาสุขของประชาชนอย่าง
แท้จริง กองทัพบกมีความภาคภูมิใจในเกียรติและความเสียสละที่กำลังพลท่านนี้ได้แสดงให้เป็นที่ประจักษ์ถึงการเป็นทหารของ
ชาติที่พร้อมช่วยเหลือประชาชนในทุกสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัวของ จ่าสิบเอก วสันต์ ทันนิธิ ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ทั้งนี้
จ่าสิบเอก วสันต์ ทันนิธิ จะได้รับการปูนบำเหน็จ ๓ ขั้น และได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น โดยได้เลื่อนยศเป็น “ พันตรี ” พร้อม
กันนี้ กองทัพบกได้ดูแลด้านสิทธิกำลังพล มอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิของทางราชการและการช่วยเหลือพิเศษอื่นๆเพิ่มเติม
ให้แก่ครอบครัวของจ่าสิบเอกวสันต์ ทันนิธิ อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับ
ครอบครัวจ่าสิบเอก วสันต์ ทันนิธิ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท
..........................................................................................................
๑๑ กันยายน ๕๔

ข้อมูล ขจก. ภาคใต้ (ขบวนการโจรก่อการร้าย)

แผนการของผู้ก่อการ ขจก. ย้ำ ขจก. ไม่ใช่พี่น้องมุสลิม

ไม่ใช่ข่าวลือและมีซ้ำซ้อนกว่านี้

อย่ากีดกันสื่อมวลชน
แผนการ
ต้องการโดดเดี่ยว สหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้วยการเอาเอเชีย

แผ่นดินไทยทุกตารางนิ้ว ที่เราเหยียบลงไป แทรกซ้อนกลบฝังร่างของวีรบุรุษไทยของเหล่าทหารหาญ และชาวไทยทั้งปวงในอดีตมากมายสุดคณานับที่เสียสละ รักษาแผ่นดิน และสร้างชาติไทย ท่านเหล่านั้นมีกี่คนที่เรารู้จักชื่อของท่าน มีกี่คนที่มีพระนาม นามระบุไว้ในพงศาวดาร แต่ด้วย
ทนทุกข์ยาก กู้ชาติ พระศาสนา
บทวิจารณ์
(ไทย-ลาว-เขมร-เวียดนาม-พม่า-และมาเลเซียรวมเป็นรัฐอิสลาม หรือเป็นเครือข่าย ผนวกกับอินโดนีเซียเป็นฐาน ต่อสู้อเมริกาและยุโรป โดยใช้มาเลเซียเป็นรัฐบาลกลาง โดยมุสลิมโลก นำมุสลิมจากซีเรีย ลิเบียและอาฟกานิสถาน เข้ามาฝึกอาวุธและการสื่อสาร ให้มุสลิมในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงอินโดนีเซีย(ซึ่งมีคนจนมากเชื่อมโยงถึงฟิลิปปินส์(ซึ่งมีคริสต์มากและมาเลเซีย(อิสลามเข้มแข็งโดยเฉพาะประเทศไทย(เพราะมีพุทธมากซึ่งในปัจจุบันให้ ดร.มหาเธ แห่งมาเลเซีย เป็นผู้นำมุสลิมในภูมิภาคเอเซีย
แผนการระยะยาว 
ได้เริ่มปฏิบัติการมาราว 40 ปีแล้ว โดยพยายามเพิ่มประชากรมุสลิมในประเทศไทย ด้วยวิธีของศาสนาอิสลาม คือชายอิสลามให้มีภรรยาประจำได้ 4คน (เมื่อมีลูกแล้วจะหย่าหรือเลิกไปมีภรรยาใหม่อีกก็ได้ เพื่อจะได้เร่งการมีลูกมีประชากรอิสลามได้มากและเร็วขึ้นจากนั้น กก.อิสลาม จะส่งเด็กไทยอิสลามไปเรียนในระดับประถมและมัธยมหรืออาชีวะในประเทศมาเลเซีย -อินโดนีเซียหรือชาติอาหรับ (เพื่อให้เลือดมุสลิมเข้มข้นเพราะค่าใช้จ่ายถูก โดยกก.อิสลามในประเทศไทยส่งเงินไปช่วยจนจบ(สำหรับใครที่ไปบรูไนเรียนฟรีส่วนคนมีฐานะให้ไปเรียนระดับปริญญาที่ลิเบีย อิหร่านเป็นต้น ต่อจากนั้นได้มีการ วางคนมุสลิมเข้าไปในวงการเมืองและในวงราชการ เพื่อให้นักการเมืองมุสลิมได้บริหารบ้านเมือง และไปจัดแถวให้ข้าราชการมุสลิมอยู่ในตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานราชการ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศมุสลิม 
แผนการระยะสั้น เรียกแผน ตาลาตี๊ต่ำปง เป็นแผนต่อจากแผนแรก โดยมุ่งจะยึดครองประเทศไทยเป็นประเทศมุสลิมให้ได้ ภายใน 10 ปี (2547-2557) เป้าหมายสำคัญ คือในปี ค.. 2020 (..2563) จะยึดประเทศไทยได้ทั้งหมด โดยแผนระบุไว้ว่า "วันที่ไทยจะเศร้าที่สุด คือวันที่ในหลวงสิ้นประชนม์โดยมาเลย์จะเป็นผู้รับแผนปกครองไทย และจะใช้กฎหมายอิสลามปกครองประเทศ (มีหนังสือปกที่มหาเธใส่เสื้อสีแดง ในเอกสารลับของมุสลิมเป้าหมายและวิธีดำเนินการ 
ผู้นำย้ำให้พยายาม ทำให้คนไทยแตกแยกกัน ทำให้พุทธแตกแยก ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้โครงการ ตาลาตี๊ต่ำปง มุ่งหมายทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย โดยวางมุสลิมเป็นนักการเมือง เข้าสังกัดทุกพรรค 
นโยบายเชิงรุกในการยึดครองแผ่นดินไทย ภายใน 10 ปี 

กลยุทธ์ที่ใช้มีดังนี้ (ตาลาตี๊ต่ำปงต้องเจาะให้ไทยมันเลือดไหลหมดตัว แล้วมันจะค่อยๆตายโดยที่ 
1. 
ต้องยุยงมันให้ทะเลาะกันในหมู่พระสงฆ์ นักการเมือง นักศึกษา ประชาชน ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องใช้เงินในการทำ CD ให้สถาบันเสื่อม ต้องใช้เงินมากก็ยอม ทำลายติดต่อกัน โดยส่งคนเข้าทุกพรรค 


2.  
การขโมยเด็กไทยพุทธที่ทำมา 39 ปีแล้ว ต้องทำต่อ นำมาฝึกการโจรกรรม ทำระเบิด เด็กที่ฝึกไว้เหลือไม่กี่ร้อย คงต้องใช้เงินไปซื้อเด็กทางภาคเหนือ อิสาน หรือแหล่งสลัมในภาคกลาง ถ้าไม่ได้เด็กไทยพุทธตามจำนวน ก็ต้องหลอกล่อพ่อแม่มุสลิมว่า ขอลูกส่งไปเรียนนอกประเทศไทย แต่ต้องไปเรียนภาษาอาหรับที่ปอเนาะทางภาคใต้ก่อน เอาเด็กอายุ ไม่เกิน 10 ปี
3. 
การจ้างคนทำลายพระสงฆ์และวัดไทย ยังต้องทำต่อเนื่อง เอาคนของเราแทรกเข้าไปในวัดไทยให้มากที่สุด และวางคนตีโอบทางภาคเหนือลงมาโดยเร็ว โดยใช้มุสลิมผู้ใหญ่เข้าไปค้าขายโรตีและของที่ระลึก 

4. 5. 
อย่าให้คนไทยพุทธและอิสลาม จังหวัดใต้มีการศึกษา ให้เผาโรงเรียน ฆ่าครู สร้างปอเนาะเพื่อการปลุกระดม 
เพิ่มประชากรมุสลิม ให้ชายหญิงแต่งงานเมื่อมีอายุ 12-13 ปี เพื่อเร่งสร้างกลุ่มมุสลิมที่เข้มแข็ง 
6. 
ดึงเศรษฐกิจไทยมาเป็นของเรา ต้องเร่งทำ ให้ใช้มุสลิมพื้นที่เข้าซื้อที่ดินและกิจการรีสอร์ทโรงแรมตามชายทะเลทุกแห่ง และทุกแหล่งท่องเที่ยว ต้องให้เปลี่ยนมือมาเป็นของมุสลิมและให้คลืบคลานไปถึงกรุงเทพฯ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน
 

7. 
เร่งทำลายกิจการในทุกพื้นที่ทุกกิจการ โดยเรียกคนมุสลิมที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพ เข้ามาวางระเบิดธนาคาร สถานที่ราชการ การไฟฟ้า โชว์รูมรถ สถานีรถไฟ รถขนส่ง ท่าอากาศยาน ศูนย์การค้า ปั๊มน้ำมัน ก่อนลงมือทำต้องแจ้งให้มุสลิมในพื้นที่รู้ก่อน จะได้ไม่ไปโดนลูกหลง
 

8. 9
ให้เพิ่มเจ้ามือหวยมาเลย์ ไปยังทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน เราต้องเป็นเจ้ามือเพียงผู้เดียว พื้นที่ใดยังมีคนพุทธเป็ฯเจ้ามือ ให้ฆ่าทิ้งเสีย รับซื้อหวยรัฐบาล หวยออมสิน อื่นๆ แม้เพียง บาทก็รับซื้อหมด ให้มันงมงายเล่นหวยมาเลย์ ออกรางวัล สัปดาห์ละ ครั้ง เดือนละ 16 ครั้ง รางวัล ABCD 4ตัว มันไม่ถูกเรารวย เงินฆ่ามันเอง เราครอบครองได้ทั้ง จังหวัด เพราะรางวัลสูงกว่าหวยไทย ทักษิณ ไปแล้วยิ่งทำง่าย 

10. 
การฆ่าคนพุทธเพิ่มมุสลิม ทำให้ได้วันละ 2,000 คน เดือนละหกหมื่นคน ปีละ 720,000 คน การที่คนของเราไปแต่งกับพุทธดึงคนมา ได้ลูกจะเป็นมุสลิมปีละ ล้านคน อันนี้ต้องทำให้ได้ หลังจากนั้นจะทวีคูณ เป็นการกลืนคนโดยง่าย การมีมุสลิมมากไว้ต่อรองเป็นสิ่งสำคัญ 
แย่งชิงผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดี โดยใช้สุลต่านหรือองค์หญิงที่เกิดจากรายา ประไหมสุหรี่ ก็ต้องทำ เลือกแต่งงานกับคนมีเงินมีตำแหน่งในรัฐบาล กิจการทองคำ สายการบิน เรือเดินทะเล นักการเมือง กระจายเรื่องนี้ลงในมุสลิมทุกคน

 

11. 
การครอบงำกิจการการเงินทุกองค์กร การมีเงินคือการมีอำนาจ ใส่หัวมุสลิมทุกคนไว้ โดยการช่วยให้มุสลิมคุมการคลัง การเงินทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทุกกระทรวง และกิจการโทรคมนาคม วางมุสลิมไว้ในตำแหน่งสูงๆทุกจังหวัด ทุกอำเภอทุกตำบล หรือแม้แต่การเงินในวัดไทยก็ต้อง ใช้คนมุสลิมเข้าไปใกล้ให้ได้ทำบัญชีของวัด ในกิจการของ 12. KTB ได้ผลพอประมาร ต้องเข้าไปในธนาคารอื่นด้วย เช่นธนาคารสงเคราะห์ และธนาคารของของชาติต่างๆ 
การสร้างสถานการณ์เรื่องมุสลิมใต้ถูกรังแก ต้องทำต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดมากๆ ให้กลุ่มอัลไคด้ารู้ เพื่อส่งต่อให้เจไอ เข้าวางแผนทำลายล้างมัน


13. 
การทำแผนที่จุดสำคัญในกรุงเทพและเมืองใหญ่ๆในไทย ต้องเร่งทำให้เสร็จ เด็กเราส่งไปเรียนตามสถาบันต่างๆ เวลาว่างให้ช่วยเร่งทำ การเงินไม่ต้องห่วง ใช้เงินค่าแรงจากเงินที่เรียกค่าคุ้มครอง จังหวัดภาคใต้ เสร็จแล้วส่งให้ MD ดำเนินการต่อ 

14. 
การปลุกระดมโดยวางคนเข้าไปในกลุ่มมุสลิมในอยุธยา นครสวรรค์ ดอยปุย และที่บ่อเกลือชายแดนเหนือทุกจังหวัด ต้องเร่งทำให้เหมือนที่ทุ่งครุ ตลิ่งชัน หนองจอก มีนบุรี พัทลุง เชียงราย บางแสน ให้ทำต่อเนื่อง ส่วนโรงเกลือ มุสลิมเราเอาคนข้ามไปฝั่งเขมรได้หุ้นคาสิโน และตามออเดอร์ ตะเข็บชายแดน รวมซื้อหุ้นคาสิโนที่เกาะสอง เราจะเอาภาคใต้ทั้งหมดไว้ก่อน เร่งสร้างมัสยิดเล็กๆ อย่าให้คนไทยพุทธรู้ตัว เร่งแทรกซึมเหมือนน้ำ 


15. 
รวบรวมเงินของมุสลิมที่ร่ำรวยให้มากกว่าเดิม ส่งเด็กมุสลิมอื่นที่ไม่ใช่ลูกไปเรียนที่อัฟกานิสถานเดิมได้ผลดีเร่งทำต่อ เนื่อง เราต้องยึดไทยให้ได้เหมือนที่ยึดอินเดียใน 10 ปีเราจะกลืนไทยพุทธให้หมดและจะเร็วยิ่งขึ้น ถ้ามุสลิมได้เรียนเพิ่มแขนงแพทย์ให้มากๆ 


16. 
การวางคนสืบทอดระยะยาว ปลูกจิตสำนึกบ่อยๆ ท่าน MD บอกว่า ถึงแม้รุ่นท่านไม่ทันก็ต้องทำต่อไป โดยมีรุ่นเรารุ่นเด็กสืบทอดไปในทุกเรื่องที่วางแผนไว้ เลือกเด็กฉลาดรับงานด้านศาสนา ปลูกฝังทำเพื่ออัลเลาะห์ ได้ขึ้นสวรรค์ การสร้างผู้นำในทุกๆกลุ่มสำคัญ โดยเฉพาะนักรบแผน 2 4 8 16 32ใช้ได้เสมอ เน้นการฟังมวลชนผู้ใหญ่ 


17. 
การล่อใจให้คนไทยพุทธให้เปลี่ยนศาสนาเป็นมุสลิม โดยให้กู้เงินดอกเบี้ยไม่มีดอก ปีต่อไปมีดอกเล็กน้อย หวังผลภายหน้า เขาจะช่วยเงินกลับมาภายหลัง ให้ทำต่อไปเหมือนโซ่ 
(ยึดที่ดินเรานั้นแหละแบบที่อิสลาเอลทำกับปาเลนไตน์)

18. 
การเข้าฮุบกิจการของหุ้นส่วน ให้ดูว่าส่วนใดไม่ระวังตัว ให้บอกเจไอเข้าดำเนินการฆ่าหุ้นส่วน แล้วดึงกิจการมาเป็นของเรา ต้องให้อยู่ในมือมุสลิมเท่านั้น
 

19. 
ให้อำนวยความสะดวกตามชายแดนที่ติดกับไทย ให้มันเล่นคาสิโนของเราให้ได้เงินมันมากที่สุด ส่งคนของเราตีสนิท สืบถามเรื่องกิจการภูเก็ต กระบี่ พังงา ให้ช่วยติดต่อซื้อกิจการด้านการท่องเที่ยวให้อยู่ในมือเรา 
20. 
เป็นที่น่ายินดีขณะนี้เร่งส่งคนของเราเข้าแดนไทยให้มากที่สุด ก่อนที่มันจะสำรวจทะเบียนใหม่ การมีถิ่นฐานในไทย เราจะได้ซื้อที่ดินของมันให้มาก ก่อนที่มันจะกั้นแดน เราล้ำที่ดินทุกตารางเซ็นต์ 
21. 
ทุกครั้งที่มีโอกาสต้องขอโน่นขอนี่ให้มากที่สุด การวางตัวคนเข้าพรรคการเมืองและเป็นข้าราชการระดับสูง สู่เส้นทางบริหาร และเข้าใกล้ KING (ในหลวงและแหล่งศาสนาที่ใหญ่มากที่สุดคือ ธ..ก เอาคนของเราใช้เงินไปทำบุญซื้อใจ เมื่อเสร็จแล้ว แฟกซ์ส่งไปที่ KLS จำไว้ 

22. 
เร่งการต่อรองให้เราปกครองตนเอง ให้มีกฎหมายอิสลามใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องเร่งทำ เพื่อการแยกดินแดนออกมาง่ายภายหลัง 


23. 24. 
ปลุกเร้าให้มุสลิมขับไล่ทหารออกไปโดยเร็ว ไม่ให้คุ้มครองครู มุสลิมและคนพุทธที่นอกกรอบให้ออกไปจากพื้นที่ จังหวัดขณะนี้การฝึกเด็กของเราทำไม่สะดวก กลุ่มปะนาเระถูกจับตา เราต้องเข้าป่าทางบาโจ และบูโด ให้หน่วยกล้าตายของเราฆ่าคนของพุทธ ในเขตหนองจิก เพื่อดึงความสนใจไปด้านโน้น 

เรื่องยาเสพติด ถ้าโดนกวนมากๆ ให้ย้ายฝั่งไปเขมรหรือลาว ของที่ผลิตแล้วในเกาะสองให้เร่งขาย สะสมเพื่อกิจการใหญ่ของเรา ถ้าโดนจับให้ทุ่มเงินจ่ายตำรวจท้องถิ่น ถ้ามันขัดขืนฆ่าทิ้งแถวพรุ 
25. 
การแลกเงินไทยเป็นดอลล่าร์ ให้แลกเปลี่ยนทุกวัน ไม่ให้ธนาคารไหวตัว ทำเศรษฐกิจมันให้ทรุด ให้มุสลิมซื้อบัตรเงินหรือแซงวั่นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน ให้แทรกแทรงกิจการการเงินให้ได้มากที่สุด รวมทั้งการดึงเงินในพระสงฆ์ไทย ให้มาฝากในธนาคารของเรา 
26. 
การนำรายได้เพิ่มจากอาหารคนและสัตว์ดีมาก เร่งสร้างอาหารฮาราล ส่งขายอาหรับ เงินจากการขายอาหารแมวสุนัข ะช่วยเพิ่มมุสลิมในยุโรป จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส


27. 
ระวังการดักฟังสื่อสาร เอกสารทุกเรื่องที่ประชุมเก็บให้มิดชิด เด็กใหม่ที่รับคำสั่งให้แน่ใจว่าข้อมูลไม่รั่วไหล อย่าให้จดบันทึกบ้านไทยพุทธที่พ่อแม่ถูกฆ่า ดึงเด็กมาเป็นของเรา สอนให้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ ย้ำประวัติศาสตร์ อิหม่ามถูกฆ่า1ให้ฆ่าพระ10 อุสต๊าสถูกฆ่าให้ฆ่าครู10ประโคมข่าวมุสลิมลี้ภัยไปหา MD(มหาเดย์สร้างเหตุการณ์มุสลิมลี้ภัยใต้ให้มากยิ่งขึ้น ออกข่าวให้มุสลิมกลางส่งเงินมา ขอความเห็นใจจากทั่วโลก ทำให้มันเสียชื่อมากที่สุด เราจะได้ยึดครองได้ง่าย เร่งดึงเด็กไทยพุทธให้ไปเรียนที่ปีนัง อัพแลนด์ ให้ได้ 1000 คน เพื่อการปลูกฝัง ขณะนี้สายรายงานว่า ได้ปักธงลงบางพื้นที่ว่า เราได้ดินแดนไทย 
28. 
ผูกขาดการขายสินค้ากัยพ่อค้าชาวไทย ให้เปลี่ยนชื่อสินค้าทุกชนิดของเราเป็นชื่อทางยุโรป รวมถึงน้ำมันปิโตรเลียม ซื้อเข้าเมื่อราคาไทยต่ำ ส่งกลับให้มากเมื่อราคาไทยสูง 



29. 
ให้เงินเจ้าหน้าทางชายแดนไทย ให้ช่วยเหลือกิจการของเรา ซื้อพรรคการเมืองไทย ทำลายศาสนาพุทธ สถาบันชาติ สถาบันกษัตริย์ โดยด่วน 
ขอบคุณความเป็นคนไทย ที่ฝังอยู่ในสายเลือดและวิญญาณของท่านเหล่านั้น ท่านจึงทำหน้าที่รักษาแผ่นดินด้วย ความภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย แผ่นดินไทยจึง ยั่งยืนปรากฏเด่นสง่าบนแผนที่โลกตราบเท่าทุกวันนี้ และแผ่นดินไทยผืนนี้ก็คือพินัยกรรมที่บรรพบุรุษไทย มอบให้เราชาวไทยเป็นสมบัติร่วมกันอยู่อาศัย ร่วมกันรักษา เมื่อมีมหันตภัยเยี่ยมกรายเข้ามาต้องหาหนทางป้องกัน หากเรารุ่นลูกหลานไทย พากันนิ่งเฉยนั่นก็คือหนทางอันนำไปสู่วันสิ้นชาติ และเมื่อถึง "วันสิ้นชาติ"..... เราอาจไม่ใด้โอกาสแก้ไข "........ ถวายแผ่นดิน ให้เป็น พุทธบูชา 
แด่ศาสนา สมณะ พระพุทธโคดม 
ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี 
สมณะพราหมณ์ ปฏิบัติ ให้พอสม 
เจริญสมถะ วิปัสนา พ่อชื่นชม 
ถวายบังคม รอยบาท พระศาสดา 
คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า 
ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา 

พระพุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตราพระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน 

ศึกบางระจัน - สันติ ลุนเผ่

                              

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

ความฝันอันสูงสุด

                            




เพลงความฝันอันสูงสุด

ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ

ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว

ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ

ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทนง



จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด

จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง

จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา



ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร

ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา

ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา

ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป



นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง

หมายผดุงยุติธรรมอันสดใส

ถึงทนทุกข์ทรมานนานเท่าใด

ยังมั่นใจรักชาติองอาจครัน



โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่

เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน

คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ

ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทยฯ

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ราตรีสวัสดิ์


เพลงราตรีสวัสดิ์ แด่ทหารกล้ากับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่

วันนี้ฉันมีนิทาน อยากเล่าให้เธอฟัง
นิทานเรื่อง ท ทหาร อดทน
เวลาเขายืน เขาแนบปืนกลไว้ข้างกาย
ทั้งที่เขาไม่เคยใจร้ายและไม่เคยคิดฆ่าคน

แต่เป็นอีกคืนที่เขาต้องออกลาดตระเวน
เป็นหน้าที่ของกองพันทหารราบ
ผู้รักตัวเองน้อยกว่าชนในชาติไทย
เพราะรู้ว่าเลือดเนื้อ เขาจะสละไม่ให้เราเป็นทาสใคร

ในขณะนั้น ผู้ก่อการร้ายซุ่มโจมตี
เสียงปืนดังสนั่น ตอนเวลาในเที่ยงคืนกว่า
เสียงระเบิดดังก้องกึกไปทั่วทั้งป่า
พร้อมเสียงกระสุนปืนทะลุตัวจ่า

เขารีบยกปืนกลข้างกายประทับบ่า
ในขณะที่ยิงสวนไปเขาคิดแต่ว่า
ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของชีวิต
เขาก็ยินดีที่จะสละทุกอย่างด้วยยศอันน้อยนิด

ขอเพียงคนในชาติได้หลับสบาย
เขาจะยืนหยัดปกป้องแผ่นดินแม้ชีพมลาย
ในราตรีที่ด้ามขวานลุกเป็นไฟ
ประเทศไทยเจ้าเอ๋ย มีคนฝากเพลงนี้มาให้

หลับตาเถอะนะ ขอให้เธอหลับฝันดี
คืนนี้ไม่ต้องห่วง ตรงนี้ฉันจะดูแลด้วยชีวิตของฉัน

ในคืนที่ผมกินเหล้าอยู่นั่งเล่น
ในคืนที่ป้าข้างห้องยังตั้งวงป๊อกเด้ง
คืนที่เด็กมัธยมนั่งท่องตำราเอนท์จุฬาฯ
คืนที่ใครหลายคนลืมชื่อคนเดือนตุลา

คืนที่คุณนอนหลับอยู่บนเตียง
ทั้งหมดคือคืนเดียวกันกับเสียงปืนที่ดังเปรี้ยง
ของทหารต่อต้าน ข.จ.ก.
ผู้ไม่ยอมให้ใครมาเผาโรงเรียน เผาตำรา ส.ป.ช.

และยังไม่มีตอนจบของนิทาน
มีเพียงแต่ตอนรุ่งสางไม่เป็นศพก็พิการ
เพราะในทุกเช้าที่เราตื่นมาเมาขี้ตา
มันคือเช้าแห่งการสูญเสียที่ 5 องศา 37 ลิปดา

เขาตายเพื่อคนในชาติจนหลับสบาย
เขาจะยืนหยัดปกป้องแผ่นดินแม้ชีพมลาย
ในราตรีที่ด้ามขวานลุกเป็นไฟ
ประเทศไทยเจ้าเอ๋ย มีคนฝากเพลงนี้มาให้

หลับตาเถอะนะ ขอให้เธอหลับฝันดี
คืนนี้ไม่ต้องห่วง ตรงนี้ฉันจะดูแลด้วยชีวิตของฉัน
ฝากดาวบนฟ้า ร้องเพลงนี้ให้เธอฟัง
หากฉันไม่ได้กลับ อย่างน้อยให้เธอหลับสบายก็พอแล้ว

ดูวีดีโอที่นี่ครับ http://www.youtube.com/watch?v=Tx5yTvsjDk8 น้ำตาจะร่วง

ดาวน์โหลดที่นี่ครับ http://www.4shared.com/audio/tMI482IJ/_online.html? อัพโหลดเองครับ

                      โตไปขอเป็นทหารกล้า หรือตำรวจ เพื่อพิทักษ์สันติราช

ฟังเพลงนี้